การซื้อสินค้าสำหรับลูกน้อยนั้น ถือเป็นเรื่องที่ไม่เล็กเลย เพราะพ่อแม่ส่วนใหญ่นั้นก่อนจะเลือกซื้อสินค้ามักจะพิจารณาตั้งแต่ กล่องบรรจุภัณฑ์  ไปจนถึงรายละเอียดความเหมาะสม และความปลอดภัย ถึงจะเป็นสินค้าที่ดูไม่น่าจะต้องคิดนาน แต่กับการเลือกซื้อให้ลูกรักนั้นกลับกลายเป็นเรื่องใหญ่จนผู้ประกอบการอาจจะลืมนึกไปได้เหมือนกัน

ตลาดสินค้าแม่และเด็ก

จากข้อมูลของศูนย์วิจัยสถาบันอาร์แอลจีระบุว่า คุณแม่ยุคใหม่ส่วนใหญ่อายุ 21-35 ปี ซึ่งถือเป็นผู้เลือกและผู้ตัดสินใจหลักในการเลือกซื้อสินค้าในกลุ่มแม่และเด็ก ซึ่งพบว่าในไทยนั้นมีจำนวนสูงถึง 8 ล้านคนเลยทีเดียว โดยข้อมูลจากฐานวิจัยกสิกรพบว่ามูลค่าตลาดในกลุ่มสินค้าแม่และเด็กในปี 2562 นั้นมีมูลค่าถึง 40,300 ล้านบาท ที่สำคัญข้อมูลจาก Priceza Insights ยังบอกไว้อย่างน่าสนใจอีกด้วยว่า สินค้าในกลุ่มนี้นั้นมีอัตราการเจริญเติบโตจากการซื้อออนไลน์ในช่วงโควิด-19 ที่สูงมากจนติดอันดับ Top 5 ที่สร้าง Conversion Rate (CVR) โดยคิดเป็น 96% เลยทีเดียว ดังนั้นบอกได้เลยว่าถึงจะเป็นตลาดที่ดูไม่น่าหวือหวาหรือสร้างความตื่นเต้นได้มากเท่าไหร่ แต่ก็มีกำลังซื้อสูงอยู่ในอันดับต้นๆ แบบที่เราคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

การปรับตัวของแบรนด์ให้เหมาะกับสินค้ากลุ่มแม่และเด็กในยุค New Normal

เมื่อการขายแบบเดิมๆ เริ่มไม่ตอบโจทย์สำหรับการช้อปปิ้งในยุคปัจจุบัน แบรนด์สินค้าจึงจำเป็นต้องหากลยุทธ์และวิธีการใหม่ๆ ที่เหมาะสมกับรูปแบบของตัวสินค้ากลุ่มแม่และเด็ก ซึ่งมีไฮไลท์สำคัญดังต่อไปนี้

• การช้อปปิ้งออนไลน์ ต้องบอกว่าเหล่าคุณแม่นั้นไม่ว่าจะเป็นสายช้อปหรือสายประหยัด ต่างก็เลือกใช้ช่องทางการช้อปปิ้งออนไลน์กันมากขึ้น ด้วยเหตุที่ว่าสามารถเปรียบเทียบราคาในท้องตลาดได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาในการเลี้ยงลูก แถมคุณแม่หลายๆ คนยังนิยมใช้โซเชียลมีเดียขนาดหนัก ซึ่งในที่นี้ก็รวมไปถึงการช้อปปิ้งอีกด้วย นอกจากนี้หากแพลตฟอร์มไหนมีโปรโมชั่นดีๆ มานำเสนอก็มักจะทำให้เหล่าแม่ๆ ยอมควักเงินซื้อสินค้าให้ลูกน้อยได้มากยิ่งขึ้น โดยปัจจัยหลักในการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์คือ โปรการส่งฟรี ซึ่งมีผลถึง 57% โปร 1 แถม 1 อยู่ที่ 30% นอกจากนี้แพลตฟอร์มอย่าง Shopee ยังครองใจคุณแม่สายช้อปเป็นอันดับ 1 เพราะมียอดซื้อในแอพสูงถึง 79% เลยทีเดียว ส่วนอันดับสองนั้นตกเป็นของโซเชียลแพลตฟอร์มอย่าง Facebook นั่นเอง

• การรีวิวที่น่าเชื่อถือ ต้องบอกเลยว่าคนเป็นพ่อแม่นั้นมักจะต้องไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนในการซื้อของให้ลูกน้อย หลายคนระวังตัวยิ่งกว่าซื้อของให้ตัวเองเสียอีก ดังนั้นถ้ามีแรงสนับสนุนที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะคนที่เป็นพ่อเป็นแม่เช่นเดียวกัน ผ่านทางรีวิวผู้ใช้จริงก็จะส่งผลต่อการตัดสินใจในการซื้อสินค้าให้ลูกค้าของตนมากยิ่งขึ้น

• เน้นคุณค่าและความปลอดภัย ในเรื่องของ Product Functionality หรือสินค้าที่สามารถรองรับกับความต้องการได้อย่างตรงจุดในแง่ของฟังก์ชั่นและประโยชน์นั้นถือเป็นจุดสำคัญอย่างยิ่ง เพราะพ่อแม่ส่วนใหญ่จะมองถึงเรื่องนี้เป็นหลัก นอกจากนั้นความปลอดภัยในการใช้สินค้า รวมไปถึงการเลือกรูปแบบแพ็กเกจจิ้งและ กล่องบรรจุภัณฑ์ ที่ดูเป็นมิตรต่อเด็กและสิ่งแวดล้อมก็สามารถสร้างความรู้สึกที่ปลอดภัยให้กับผู้บริโภคได้เช่นเดียวกัน

• เทคนิคการตลาดแบบ Mompreneur ชื่ออาจจะฟังดูแปลกตา แต่ความจริงแล้วก็คือ การใช้พลังผ่านทางโซเชียลโดยสื่อผ่านทางคุณแม่ที่มีอิทธิพลในกลุ่มโซเชียลนั่นเอง คล้ายๆ Influencer ดังนั้นมักจะเห็นคุณแม่ยุคใหม่หลายท่านหันมาแชร์และให้ความรู้จนกลายเป็น Instagrammer หรือ YouTuber ที่คอยให้ความเห็นเกี่ยวกับสินค้า นอกจากนี้อย่าลืมว่ากลุ่ม Facebook Group แม่และเด็กนั้นมีอิทธิพลคล้ายๆ กัน เพราะสามารถสร้างความรู้สึกและให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์แบบคุณแม่ถึงคุณแม่ได้อย่างจริงใจ จนทำให้มีผู้ติดตามและซื้อสินค้าตามอย่างมากมายเลยทีเดียว

• เข้าถึงผู้ตัดสินใจซื้อให้ถูกคน ต้องบอกว่าถึงจะเป็นสินค้าในกลุ่มแม่และเด็กซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกัน แต่หลายครั้งคนตัดสินใจซื้ออาจจะเป็นคนละคนกันก็เป็นได้ เช่น การเลือกซื้อสินค้าที่ใช้ประจำวันอย่าง ผ้าอ้อม นมผง ส่วนใหญ่เหล่าคุณแม่จะเป็นคนเลือกซื้อสินค้าเหล่านี้ แต่หากมองถึงสินค้าที่เป็นของเล่น หรือเสริมสร้างพัฒนาการแนวสนุกสนาน หรือเกม คุณพ่ออาจจะมีส่วนร่วมมากกว่า หรือสินค้าอย่างตุ๊กตา ที่คุณตาคุณยายชอบซื้อมาฝากหลาน ทั้งๆ ที่แม่ก็บ่นว่ากองเต็มบ้านไปหมด ดังนั้นจากมุมมองที่หลากหลายเหล่านี้ ก่อนที่แบรนด์จะลุยลงมือทำการตลาด แบรนด์ควรศึกษาอย่างจริงจังเสียก่อนว่าสินค้าของเราจะไปอยู่ในการตัดสินใจของบุคคลใดในครอบครัว

• ห้ามลืมคุณพ่อเป็นอันขาด จากข้อมูลวิจัยตลาดพบว่าในปัจจุบันคุณพ่อที่อยู่ใน Gen Y นั้นใช้เวลาคลุกคลีอยู่กับลูกมากกว่าคุณพ่อในยุคก่อนถึง 3 เท่าเลยทีเดียว ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ การตัดสินใจซื้อสินค้าแม่และเด็กบางอย่าง ผู้เป็นพ่ออาจจะเป็นคนสำคัญในการเลือกซื้อ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือ ระบบความคิดที่ซับซ้อน และอาจจะมีการนำเอาเทคโนโลยีต่างๆ ในการบริโภคสื่อ และเรื่องของการจับจ่ายใช้สอยเข้ามาประกอบมากยิ่งขึ้นในการตัดสินใจซื้อ

อยากได้ กล่องบรรจุภัณฑ์ หรือแพ็กเกจจิ้งที่โดนใจและเปี่ยมด้วยคุณภาพ เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายให้ Infinity Printing ช่วยดูแลการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำจนสุดปลายน้ำ จนได้แพ็กเกจจิ้งในแบบที่คุณต้องการ มั่นใจได้ว่าผลงานออกมาเหมือนกับดีไซน์ต้นฉบับ เพราะเรากล้ารับประกันในการเคลมสินค้า หากสินค้าไม่ตรงสเป็คตามโจทย์ที่ได้รับจากลูกค้า ยืนยันด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปีในอุตสาหกรรมแพ็กเกจจิ้ง

Reference:

https://www.entrepreneur.com/article/309647

https://bizibl.com/marketing/article/consumer–trends–childrens–products–and–how–advertise–parents

http://blog.itopplus.com/biz/id_740_Mom–keting

https://www.brandage.com/article/17449/-10-เทรนด์การเลี้ยงลูก-ที่นักการตลาดต้องรู้

https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/แมและเดก-สายเปย-โลกออนไลน

เช็คราคาฟรี

ไม่มีค่าใช้จ่าย

ให้คำปรึกษาฟรี

"ที่สำคัญแอดมินใจดี ไม่เหวี่ยงแน่นอนคะ"

• สอบถามราคาซองฟอยล์ : bit.ly/infinitypacking
• INSTAGRAM : infinityprinting_official
• Fanpage : bit.ly/page-infinity
• INBOX : bit.ly/msg-infinity
• เช็คราคางานพิมพ์ : 097-465-9889 K.กวาง    
• ผู้จัดการโรงพิมพ์ : 095-165-9889 K.สุทธิดา
• ฝ่ายบัญชี บริษัท : 02-9982553

FAQ คำถามที่พบบ่อย

สินค้าในกลุ่มของสุภาพสตรีอย่างเครื่องสำอางนั้นถือว่าสร้างสีสันให้แก่วงการ ผลิตกล่อง และบรรจุภัณฑ์เป็นอย่างมาก เพราะด้วยความโดดเด่น การดีไซน์ และการใช้สีสันที่แปลกตาเพื่อดึงดูดและสร้างฐานลูกค้าในแต่ละช่วงวัยนั้นถือเป็นปัจจัยอันดับแรกของการทำการตลาดให้กับกลุ่มสินค้ากลุ่มนี้เลยก็ว่าได้

ด้วยการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางนั้นทำให้มั่นใจได้ว่าฐานตลาดในไทยนั้นเติบโตขึ้นตลอดเวลา แต่ก็ต้องเจอคู่แข่งทั้งไทยทั้งเทศที่มาจากทั้งเอเชีย และยุโรป จนทำให้แบรนด์ไทยหลายๆ แบรนด์ยอมแพ้ยกธงขาว ดังนั้นลองมาดูกันเลยว่าแบรนด์เครื่องสำอางของคุณจะใช้กลยุทธ์แบบไหนจึงจะดึงดูดใจลูกค้าได้

ตลาดเครื่องสำอางในประเทศไทย

จากข้อมูลของฐานเศรษฐกิจพบว่า ตลาดเครื่องสำอางของไทยในปีที่ผ่านมานั้นมีมูลค่าสูงถึง 3.1 แสนล้านบาท แม้ว่าในปีที่เศรษฐกิจชะลอตัวอย่างปีก่อน ตัวเลขก็ยังเป็นกราฟขาขึ้น เนื่องจากนอกจากยอดขายภายในประเทศราวๆ 1.7 แสนล้านบาทแล้ว ผู้ผลิตชาวไทยยังมีการส่งออกสินค้ากลุ่มเครื่องสำอางไปจำหน่ายในต่างประเทศมากถึง 1.3 แสนล้านบาทเลยทีเดียว

ซึ่งแม้ปีที่แล้วจะลำบากจากไวรัสแพร่ระบาด แต่การเติบโตของสินค้าในกลุ่มเครื่องสำอางก็ยังเพิ่มขึ้นถึง 6.7 % เลยทีเดียว แสดงให้เห็นว่าตลาดในกลุ่มนี้ยังถือเป็นตลาดที่มีความแข็งแรง และน่าจับตามองไม่แพ้สินค้าในกลุ่มอื่นเลยทีเดียว

 นอกจากนี้แล้วหากแบ่งสัดส่วนด้วยประเภทสินค้าจะมีตัวเลขดังนี้คือ

1. ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เป็นอันดับ 1 ด้วยสัดส่วน 42% มูลค่ารวม 9.19 หมื่นล้านบาท
2. ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้น สัดส่วน 15% มูลค่ารวม 3.3 หมื่นล้านบาท
3. ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดร่างกาย สัดส่วน 14% มีมูลค่ารวม 3.1 หมื่นล้านบาท
4. ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง สัดส่วน 12% มูลค่ารวม 2.68 หมื่นล้านบาท
5. ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก สัดส่วน 12% มีมูลค่ารวม 2.56 หมื่นล้านบาท
6. ผลิตภัณฑ์น้ำหอม สัดส่วน 5 % มูลค่ารวมอยู่ที่ 9.55 พันล้านบาท

แนวทางการขายสินค้ากลุ่มความงามและเครื่องสำอางในวันที่ต้องปรับตัวแบบ New Normal

เรื่องเครื่องสำอางกับผู้หญิงนี่เป็นของคู่กัน ยิ่งเครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้าที่ต้องมีการทดลองสีสันนั้น บอกเลยว่าได้รับผลกระทบจากการเฝ้าระวังโควิด-19 ไปเต็มๆ เพราะนอกจากจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคจากการทดลองสินค้าแล้ว ช่วงเวลาที่ผ่านมาร้านค้าต่างๆ ก็ถูกปิดล็อคดาวน์กันอยู่ตลอดเวลา 

ดังนั้นลองมาดูหนทางในการสร้างแรงดึงดูดให้กับแบรนด์เครื่องสำอางที่เหมาะกับยุคนี้กันดีกว่า โดยข้อมูลบางส่วนอ้างอิงมาจากกลยุทธ์ที่ทาง L’oreal ประเทศไทยได้นำมาไปใช้ในเชิง Beauty Tech ด้วยเช่นกัน

• เปลี่ยนBA ให้ปรึกษาทางออนไลน์ได้ ต้องบอกว่าการไปหน้าร้านเป็นเรื่องลำบากมากยิ่งขึ้น ดังนั้น BA หรือพนักงานขายจึงมีส่วนเป็นอย่างมากในการอธิบายและแนะนำสินค้าให้กับลูกค้า ซึ่งการใช้เทคโนโลยีออนไลน์ในการอธิบายแบบตัวต่อตัวนั้นก็มีประโยชน์เป็นอย่างมาก นอกจากนี้หลายแบรนด์อาจจะมีการไลฟ์สด เทสต์สินค้าและจัดโปรโมชั่นให้ลูกค้ารอช้อปจากหน้าจอมือถือที่บ้านได้ด้วยเช่นกัน

• การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า อย่างที่เกริ่นไว้ว่าสินค้าเครื่องสำอางบางประเภทเป็นสินค้าที่ต้องลองกับผิวนั้น ซึ่งสวนทางกับการแพร่กระจายของโควิด-19 เป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นแบรนด์ดังอย่าง L’oreal จึงไม่รอช้า ได้ปรับใช้เทคโนโลยีและสร้างตัวช่วยอย่าง Modiface ที่ทำให้ลูกค้าสามารถทดลองสินค้าได้โดยไม่ต้องสัมผัสสินค้าเลย ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ และเป็นทางออกที่น่าสนใจมากในยุคไวรัสระบาดแบบนี้

• การจัดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ เมื่อหน้าร้านปิดๆ เปิดๆ การหาช่องทางการขายไม่ว่าจะเป็นออนไลน์บน Marketplace อย่าง Lazada หรือ Shopee รวมไปถึงการใช้โซเชียลอย่าง Facebook, IG และ TikTok ต่างก็มีส่วนช่วยส่งเสริมคุณค่าและสร้าง Brand Awareness ได้อย่างดีเยี่ยมเช่นเดียวกัน

การสร้าง Unboxing Experience

เป็นการส่งมอบประสบการณ์ตรงที่ดีจากแบรนด์ให้กับลูกค้า โดยเฉพาะการเลือก ผลิตกล่อง ที่สวยเตะตา รวมไปถึงการคิดและใช้แคปชั่นข้อความที่สื่อถึงลูกค้าผ่านแพ็กเกจจิ้งก็ช่วยสร้างความประทับใจจนเปรียบเสมือนรักแรกพบให้กับลูกค้าและแบรนด์สินค้าได้ 

นอกจากนั้นยังถือเป็นโอกาสดีของแบรนด์ที่จะส่งสินค้าทดลองเล็กๆ ให้กับสินค้าที่กำลังจะออกใหม่หรือเปิดตัว เพราะจะทำให้ลูกค้าได้ทดสอบสินค้าด้วยตัวเองและยังเปรียบเสมือนของขวัญที่สร้างความประทับใจได้อย่างมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากสินค้าทดลองตัวนั้นเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสูงและใช้ได้ผลดี

• เลือกใช้ Influencers/Micro Influencer ถือเป็นการช่วยเพิ่มความจดจำให้กับแบรนด์ได้อีกทางหนึ่ง โดยการใช้ Influencer นั้นถึงจะเป็นที่มีอิทธิพลต่อผู้บริโภคในกลุ่มเล็กๆ แต่ก็ถือเป็นกลยุทธ์แบบดาวกระจายที่ดีเลยทีเดียว เพราะการลงภาพหรือโฆษณาของแบรนด์ของ Influencer นั้น หากเห็นผ่านหูผ่านตาแบรนด์สินค้าของเราบ่อยๆ คนก็จะเริ่มจดจำ ยิ่งถ้าหากสินค้านั้นถูกถ่ายออกมาได้อย่างสวยงาม มีการรีวิวกล่าวถึงอย่างละเอียดชัดเจนอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าเหล่า Followers ก็อาจจะกลายมาเป็นลูกค้าที่แท้จริงของแบรนด์ได้ในอนาคต

หากคุณอยากสร้างแบรนด์เครื่องสำอางที่แตกต่าง โดยการ ผลิตกล่อง แพ็กเกจจิ้งที่สวยและเนี้ยบ ให้ Infinity Printing ช่วยดูแลเพราะเรามั่นใจในคุณภาพและการส่งมอบงานที่เร็วตามนัดหมาย

นอกจากนี้หากงานเสียหรือผิดพลาดไม่ตรงสเป็คที่ลูกค้าดีไซน์เอาไว้ เรารับเคลมงานใหม่ให้ทุกชิ้น หมดห่วงและกังวลใจเรื่องไฟล์หลุดออกจากบริษัทได้อย่างแน่นอน เพราะเราให้คุณค่าและรักษางานทุกชิ้นของลูกค้าเป็นความลับ รับประกันด้วยผลงานด้านบรรจุภัณฑ์มากว่า 20 ปีในอุตสาหกรรมกล่องแพ็กเกจจิ้ง

Reference:

https://luxe.digital/business/digital–luxury–reports/luxury–wellness–beauty/

https://www.marketingoops.com/reports/industry–insight/value–and–trend–beauty–market–2020/

https://www.thansettakij.com/content/business/442817

เช็คราคาฟรี

ไม่มีค่าใช้จ่าย

ให้คำปรึกษาฟรี

"ที่สำคัญแอดมินใจดี ไม่เหวี่ยงแน่นอนคะ"

• สอบถามราคาซองฟอยล์ : bit.ly/infinitypacking
• INSTAGRAM : infinityprinting_official
• Fanpage : bit.ly/page-infinity
• INBOX : bit.ly/msg-infinity
• เช็คราคางานพิมพ์ : 097-465-9889 K.กวาง    
• ผู้จัดการโรงพิมพ์ : 095-165-9889 K.สุทธิดา
• ฝ่ายบัญชี บริษัท : 02-9982553

FAQ คำถามที่พบบ่อย

เทรนด์รักสิ่งแวดล้อมกำลังมาแรงจนทำให้หลายแบรนด์หันมาตอบโจทย์ผู้บริโภคด้วยการผลิตสินค้าจากวัตถุดิบออร์แกนิคส์ ดังนั้นเพื่อการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า การเลือกกล่องแพ็กเกจจิ้งที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติก็ควรจะสอดคล้องด้วยเช่นกัน การเลือกเฟ้น โรงพิมพ์กล่อง ที่ได้มาตราฐานและตอบโจทย์ในการเพิ่มมูลค่าสินค้าจึงเป็นสิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาเป็นอันดับต้นๆ ก่อนที่จะเริ่มวางจำหน่ายสินค้าสู่ท้องตลาด

จากข้อมูลของฐานวิจัยกสิกรไทยพบว่าในปี 2561 นั้นสินค้าในกลุ่มตลาดออร์แกนิคส์มีมูลค่าถึงเกือบ 3,000 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2564 นั้นการเติบโตของตลาดสินค้ากลุ่มออร์แกนิกส์จะโตเพิ่มขึ้นถึง 5,400 ล้านบาทเลยทีเดียว เนื่องจากพฤติกรรมหลักของผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มที่จะหันมาใส่ใจในสุขภาพของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม รวมถึงไลฟ์สไตล์ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ซึ่งนอกจากจะดีต่อผู้บริโภคโดยตรงด้วยแล้ว หลายคนยังมองว่าดีต่อโลกและสิ่งแวดล้อมในภาพรวมทั้งหมดอีกด้วยเช่นกัน โดยกลุ่มสินค้าที่มาแรงสำหรับสินค้าออร์แกนิคส์มีดังนี้

• อาหารออร์แกนิคส์ที่ผ่านการแปรรูป เน้นที่อาหารแปรรูปแบบออร์แกนิคส์ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพ เช่น อาหารที่ปราศจากแคลอรี่โดยใช้แหล่งให้ความหวานจากธรรมชาติ อาหารที่ปราศจากกลูเตน ผงสกัดจากพืช เป็นต้น
• อาหารเสริมและวิตามิน เน้นส่วนผสมและวัตถุดิบที่ได้มาตรฐานออร์แกนิกส์จากหน่วยงานที่เชื่อถือได้
• เครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็น Functional Drinks สำหรับกลุ่มบำรุงผิวพรรณ หรือเป็นเครื่องดื่มอันทรงคุณค่า เช่น นมออร์แกนิคส์

กลยุทธ์ทางการตลาดและการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพสำหรับสินค้าออร์แกนิคส์

สิ่งที่ผู้บริโภคมักจะบ่นหรือตกใจทุกคราเมื่อจะซื้อสินค้าออร์แกนิกส์ก็คือ ราคา ที่สูงกว่าสินค้าทั่วไปอย่างชัดเจน แต่ด้วยต้นทุนการผลิต ซึ่งกลุ่มสินค้าออร์แกนิคส์ไม่สามารถจะทำให้ต่ำหรือนำไปเทียบกับสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปได้ การหาวิธีและเครื่องมือที่ใช้สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายจึงเป็นหัวใจหลักในการทำให้ลูกค้าเข้าใจราคาและคุณค่าของสินค้ามากขึ้น

1. สร้างความแตกต่าง การจะทำให้แบรนด์เป็นที่ยอมรับนั้นการสร้าง “ความแตกต่าง” จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นแบรนด์ควรสื่อ “สาสน์” สำคัญผ่านการส่งข้อมูลไม่ว่าจะเป็นการใช้โซเชียลมีเดีย และการโฆษณา รวมไปถึงการใช้ โรงพิมพ์กล่อง ที่ตอบโจทย์คอนเซ็ปต์ของสินค้า โดยเน้นการนำเสนอคุณค่า นอกจากนี้อาจจะกระตุ้นความจำให้ลูกค้า ด้วยการเลือกกล่องที่มีสีสันและมีสเป็คที่เหมาะสมกับความเป็นออร์แกนิคส์ของแบรนด์ โดยแนะนำให้ไฮไลท์ส่วนผสมที่สำคัญ และเน้นให้เห็นแหล่งที่มาและความเป็นออร์แกนิคส์ของวัตถุดิบก็จะช่วยสร้างคุณค่าได้ดียิ่งขึ้น

2. สินค้าเข้าถึงวิถีชีวิตแบบ New Normal ด้วยการที่วิถีชีวิตของคนเปลี่ยนไป ดังนั้นช่องทางการจัดจำหน่ายไม่ควรจำกัดแค่แบบ Offline หรือขายผ่านหน้าร้านอย่างเดียว มีลูกค้าหลายคนอยากทดลองใช้ แต่ติดที่ปัญหาเรื่องการหาซื้อลำบาก ดังนั้นใครทำสายออร์แกนิคส์ควรลองมองช่องทางการขายแบบ Online ไว้เป็นทางเลือกด้วยเช่นกัน
3. การเล่าเรื่องราว สังเกตเห็นว่าสินค้าออร์แกนิคส์หลายแบรนด์มักจะมีแรงบันดาลใจ และมีเรื่องราวที่เป็น Story ที่ทำให้คนจดจำและสร้าง Brand Awareness ให้กับผู้พบเห็นได้ ดังนั้นการใส่ Story ลงไปให้มีสีสันและให้จดจำง่ายก็มีส่วนช่วยในการเพิ่มโอกาสในการขายได้มากยิ่งขึ้น

Infinity Printing เป็นโรงงานรับพิมพ์กล่องคุณภาพสูงที่เข้าใจผู้ประกอบการทุกท่านอย่างลึกซึ้ง เราถึงต้องการเน้นทุกรายละเอียดและพร้อมส่งต่อความหวังดีให้สิ่งแวดล้อมและชุมชน ดังนั้นด้วยประสบการณ์ในการผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์ของเราที่ยาวนานกว่า 20 ปี ทำให้เรามั่นใจได้ว่างานทุกชิ้นที่ผลิตได้มาตราฐาน จนเรากล้าการันตีให้ลูกค้าเคลมงานได้หากมีการผิดพลาดจากฝ่ายผลิต ดังนั้นมั่นใจได้ว่าบรรจุภัณฑ์ทุกชิ้นจะถูกส่งมอบด้วยคุณภาพที่เกิน 100% อย่างแน่นอน

Reference:

https://kasikornbank.com/th/business/sme/KSMEKnowledge/article/KSMEAnalysis/Documents/Thai–SME_Organic–Product.pdf

http://www.centrafoods.com/blog/the–top–3–most–effective–marketing–strategies–for–your–organic–products

https://www.marketing–schools.org/consumer–psychology/marketing–organic–products/

เช็คราคาฟรี

ไม่มีค่าใช้จ่าย

ให้คำปรึกษาฟรี

"ที่สำคัญแอดมินใจดี ไม่เหวี่ยงแน่นอนคะ"

• สอบถามราคาซองฟอยล์ : bit.ly/infinitypacking
• INSTAGRAM : infinityprinting_official
• Fanpage : bit.ly/page-infinity
• INBOX : bit.ly/msg-infinity
• เช็คราคางานพิมพ์ : 097-465-9889 K.กวาง    
• ผู้จัดการโรงพิมพ์ : 095-165-9889 K.สุทธิดา
• ฝ่ายบัญชี บริษัท : 02-9982553

FAQ คำถามที่พบบ่อย

คราวนี้จะมาขยายความในการสร้างแบรนด์อาหารเสริมให้ยอดขายกระฉูดด้วยการเลือก โรงงานผลิตกล่อง และแพ็กเกจจิ้งที่มีคุณภาพสูงเพราะหลังจากไวรัสโควิด-19ระบาดธุรกิจหลายอย่างต้องปิดตัวไปแต่กับธุรกิจอาหารเสริมนั้นถือว่าเป็นกราฟขาขึ้นเลยก็ว่าได้เนื่องจากผลประกอบการส่วนใหญ่ออกมาปังกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว โดยข้อมูลจากดุสิตโพลพบว่าคนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นถึง85.30%โดยการเลือกทานอาหารเสริมและวิตามินที่มีประโยชน์ก็ถือเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆของผู้บริโภคชาวไทยเลยทีเดียว

ในปัจจุบันภาพรวมธุรกิจอาหารเสริมในไทยนั้นต้องถือว่าดีทีเดียวโดยข้อมูลจากการสำรวจของ Euromonitor Internationalนั้นพบว่าในช่วงปีที่ผ่านมาตั้งแต่มีไวรัสระบาดมูลค่าตลาดอาหารเสริมนั้นสูงถึง 23,916.80 ล้านบาท โดยเทรนด์รักสุขภาพของผู้บริโภคชาวไทยสามารถแบ่งได้ดังนี้

• กลุ่ม Gen Y หรือจะเรียกว่ากลุ่ม Millenial ก็ได้เช่นกัน โดยเป็นกลุ่มที่ต่อจาก Gen X และตามด้วย Gen Z ซึ่งโดยทั่วไปนักวิจัยมักนิยามให้เป็นคนที่เกิดในช่วงปี 1981 – 1996 โดยคนกลุ่ม Gen Y นั้นมีความทันสมัยและมีความรู้ในเรื่องเทคโนโลยีมากกว่าเจนเนอเรชั่นก่อนหน้า แต่ที่สำคัญคือคนกลุ่มนี้นั้นให้ความสำคัญในเรื่องของสุขภาพสูงมากจึงทำให้ปัจจัยรองๆ อย่างอาหารเสริมกลายเป็นตัวช่วยหลักที่คนกลุ่ม Gen Y ให้ความสนใจอย่างมากเลยทีเดียวดังนั้นหากผู้ประกอบการขายสินค้าที่เหมาะกับคนในช่วงวัยนี้หากสื่อสารและเข้าถึงได้อย่างตรงจุดเช่น เลือกใช้ โรงงานผลิตกล่อง ที่สามารถสร้างผลงานตามแบบที่ดีไซน์ได้ ก็เปรียบเสมือนการแฝงการโฆษณาให้กับแบรนด์รวมถึงเป็นการสร้างแบรนด์ให้น่าจดจำมากยิ่งขึ้น

• กลุ่มผู้สูงอายุ อย่างที่เราทราบกันดีว่าเมืองไทยในปี2021กำลังเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มรูปแบบด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีประชากรและกลุ่มผู้บริโภคที่สูงอายุมากพอสมควรด้วยเช่นเดียวกันธุรกิจที่ตอบโจทย์ผู้สูงวัยนั้นกำลังตื่นตัวกันอย่างมากมาย แต่อย่างไรก็ตามผู้สูงวัยบางกลุ่มยังไม่ถนัดการใช้เทคโนโลยี ซึ่งอาจจะมีผลทำให้การซื้อสินค้านั้นอาจจะเป็นการตัดสินใจผ่านลูกหลานเป็นหลัก ดังนั้นผู้ประกอบการอาจจะต้องพิจารณาในการใช้สื่อด้านการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายที่เหมาะสม เช่น การใช้ TV Marketing การสร้างOmni Channelให้มีช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งออนไลน์และหน้าร้านเป็นต้น

เลือกกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจอาหารเสริม

เนื่องจากตลาดของสินค้าอาหารเสริมนั้นมีมูลค่าสูงมากๆทำให้ผู้ค้าทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ต่างก็อยากจะมาลงทุนด้านธุรกิจนี้กันทั้งนั้นและด้วยความหนาแน่นของผู้เล่นในตลาดนี้ปัจจัยทางด้านการตลาดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งเพราะหากเราทำซ้ำเหมือนกับแบรนด์อื่นๆแถมเพิ่งเข้าตลาดมาใหม่ๆก็อาจจะไม่ได้ทำให้สินค้าของเราโดดเด่นแตกต่างจากคู่แข่งซักเท่าไหร่โดยแนวทางที่สำคัญสำหรับกลยุทธ์การทำธุรกิจของอาหารเสริมที่สำคัญมีดังนี้

• ทำการวิจัยเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายอย่างละเอียดก่อนลงทุนด้านการตลาด อย่างแรกเลยคือผู้ประกอบการควรจะเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงกลุ่มเป้าหมายและอาจจะออกสินค้าขนาดตัวอย่างเพื่อตรวจสอบว่าแบรนด์ของคุณตรงกับความคาดหวังของกลุ่มผู้บริโภคหรือไม่โดยอาจจะลองให้เปรียบเทียบแบบ Blind Test คือ มีทั้งแบรนด์ของคุณเองและคู่แข่งในท้องตลาดซึ่งไม่เผยแบรนด์ให้เห็นแต่ให้ลูกค้าลองใช้หรือลองชิมเพื่อดูฟีดแบ็คและปฏิกิริยาหลังการใช้งานของกลุ่มผู้ทดลองเหล่านั้นซึ่งหากเราทราบผลการศึกษาที่ละเอียดแบรนด์จะสามารถเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์เพื่อแก้ไขและปรับปรุงองค์ประกอบต่างๆให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น
• กลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสม เมื่อได้รับข้อมูลจากการศึกษาวิจัยมาครบถ้วนแล้วการทำการตลาดให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะสื่อที่จะนำเสนอเรื่องราวและโฆษณาของแบรนด์ไม่ว่าจะเป็นการใช้โซเชียลมีเดียหรือการใช้สื่อแบบดั้งเดิมเช่นสิ่งพิมพ์ นิตยสาร เพราะอย่างที่บอกว่ากลุ่มเป้าหมายนั้นมีหลายวัยและความถนัดในการรับสื่อนั้นก็แตกต่างกันนอกจากนั้นควรจะตรวจสอบให้แน่ใจว่าการนำเสนอของแบรนด์นั้นสามารถแสดงให้เห็นถึงคุณประโยชน์และความเหมาะสมได้อย่างแท้จริงไหมเช่น แบรนด์อาหารเสริมของคุณนั้นดีอย่างไร มีคุณภาพสูงขนาดไหนได้รับการการันตีจากหน่วยงานรัฐหรือมีการรับรองอย่างน่าเชื่อถือหรือไม่ซึ่งทั้งหมดนี้ผู้บริโภคอาจจะนำไปเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจซื้ออีกครั้งหนึ่ง

• กล่องแพ็กเกจจิ้งที่มีคุณภาพ การนำเสนอคุณภาพและคุณค่าของสินค้าผ่านทางแพ็กเกจจิ้งนั้นถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบันดังนั้นผู้ประกอบการควรมองหา โรงงานผลิตกล่องที่มีคุณภาพสูงและทำงานได้ตรงตามสเป็คโดยหากมีการการันตีผลงานให้ได้นั้นถือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างยิ่งนอกจากนี้การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สื่อถึงความเป็นแบรนด์เช่น การใช้กล่องแพ็กเกจที่มีสีเขียวธรรมชาติให้สอดคล้องกับส่วนผสมที่เป็นออร์แกนิคส์การใช้สีชมพูที่สื่อถึงอาหารเสริมสำหรับสุภาพสตรีเป็นต้น นอกจากนี้ที่ลืมไม่ได้เลยคือ ฉลาก รายละเอียดและมาตรฐานต่างๆของสินค้าควรนำเสนอบนกล่องแพ็กเกจจิ้งให้ครบถ้วน

หากแบรนด์ของคุณต้องการกล่องบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารเสริมที่เน้นการสร้างคุณค่าและความน่าเชื่อถือ Infinity Printing มีการบริการผลิตกล่องอย่างครบวงจรด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยพร้อมกับทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญสูงซึ่งสามารถให้คำแนะนำทุกเรื่องเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ได้ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 20 ปีในอุตสาหกรรมสิ่ง พิมพ์กล่อง แพ็กเกจจิ้ง งานของ Infinity Printing ทุกชิ้นของเราเน้นที่คุณภาพและใส่ใจในเรื่องของรายละเอียดโดยการันตีทุกผลงานหากผลงานไม่ตรงสเป็คหรือไม่เป็นไปตามดีไซน์ของลูกค้าเราทำเคลมชิ้นงานให้ใหม่นอกจากนี้เรายังใส่ใจในเรื่องของข้อมูลโดยข้อมูลรูปแบบดีไซน์และไฟล์ทุกไฟล์ของท่านจะถูกเก็บไว้เป็นข้อมูลความลับสูงสุดสำหรับเรา

Reference:

https://www.marketingoops.com/news/thais–new–normal–healthy/

https://www.bangkokbanksme.com/en/supplement–food–after–growth–covid–19

https://positioningmag.com/1282745

https://impacx.io/blog/building–a–marketing–strategy–for–your–supplement–business/

เช็คราคาฟรี

ไม่มีค่าใช้จ่าย

ให้คำปรึกษาฟรี

"ที่สำคัญแอดมินใจดี ไม่เหวี่ยงแน่นอนคะ"

• สอบถามราคาซองฟอยล์ : bit.ly/infinitypacking
• INSTAGRAM : infinityprinting_official
• Fanpage : bit.ly/page-infinity
• INBOX : bit.ly/msg-infinity
• เช็คราคางานพิมพ์ : 097-465-9889 K.กวาง    
• ผู้จัดการโรงพิมพ์ : 095-165-9889 K.สุทธิดา
• ฝ่ายบัญชี บริษัท : 02-9982553

FAQ คำถามที่พบบ่อย