เมื่อการแข่งขันในด้านการตลาดนั้นเพิ่มมากขึ้น การเปลี่ยนโฉมแบรนด์ผ่านการ ผลิตกล่องกระดาษ และบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบใหม่ๆ อาจจะเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการเริ่มคิดอยู่ในใจว่าควรจะลงมือทำดีหรือไม่? และถ้าหากคุณกำลังเป็นเจ้าของแบรนด์ที่มองหาไอเดียในการสนับสนุนแนวคิดนี้อยู่ อยากจะบอกว่าคุณไม่ใช่ผู้ประกอบการเพียงคนเดียวที่อยากทดลองและนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ที่ดีกว่าเดิมให้กับลูกค้า เพราะแนวความคิดในการสร้างบรรจุภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและเพิ่มยอดขายนั้น ผู้ประกอบการทุกรายต่างก็พยายามคิดวิเคราะห์อย่างถ้วนถี่ แต่อย่าลืมพิจารณาถึงประเด็นง่ายๆ ที่เจออยู่ทุกวัน เช่น การคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายหลักของผลิตภัณฑ์ เช่น หากสินค้าของคุณเป็นสินค้าสำหรับผู้หญิง การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์และดีไซน์ที่อ่อนหวาน หรือการใช้สีชมพูพร้อมรูปถ่ายที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงบนกล่อง ก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะดูก็รู้ว่าสินค้าชิ้นนั้นผลิตเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ นอกจากนี้ควรคำนึงถึงสาเหตุและปัจจัยหลักที่ผู้ประกอบการควรจะนำไปพิจารณาในการตัดสินใจดังนี้

ต้องการยกเครื่องแบรนด์ใหม่ (Rebranding)

การตัดสินใจเปลี่ยนดีไซน์ รวมถึงการใช้วัสดุ ผลิตบรรจุภัณฑ์ และสีในรูปแบบใหม่ๆ ของแบรนด์นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งข้อเสียที่ว่าก็คือ การเพิ่มความเสี่ยงที่ทำให้ผู้บริโภคที่คุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์เกิดจำไม่ได้หรือเปลี่ยนใจได้เช่นกัน แต่เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ดังกล่าว ผู้ประกอบการควรศึกษาและรวบรวมข้อมูลของผู้บริโภคที่เป็นฐานสำคัญเสียก่อน โดยอาจจะลองทดสอบแพ็กเกจจิ้งแบบใหม่ในบางกลุ่มผู้บริโภค แล้วลองติดตามผลเพื่อดูปฏิกิริยาของผู้บริโภคที่มีต่อตัวบรรจุภัณฑ์ แบบใหม่ โดยอาจจะศึกษาในรูปแบบข้อมูลสถิติ หรือข้อมูลเชิงลึกเพื่อที่สุดท้ายแล้ว ผู้ประกอบการจะสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจ และใช้เป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจในการ Rebranding ผลิตภัณฑ์ของตนเองในอนาคต

ต้องการดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่

ต้องบอกว่าปัจจัยนี้ถือเป็นปัจจัยที่พบบ่อยที่สุดในการรีแบรนด์บรรจุภัณฑ์ โดยเฉพาะ

หากคุณต้องการเพิ่มยอดขายและดึงดูดให้ลูกค้าใหม่เข้ามาซื้อสินค้าของคุณให้มากขึ้น การปรับเปลี่ยนแพ็กเกจจิ้งให้เหมาะกับลูกค้ากลุ่มใหม่ก็อาจจะมีผลในทางสร้างยอดขายได้เพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็อาจจะสูญเสียลูกค้าเก่าๆ ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นผู้ประกอบการควรจะต้องศึกษาความต้องการของกลุ่มเป้าหมายใหม่อย่างละเอียดและถี่ถ้วนเสียก่อน ดังตัวอย่างของฟาสต์ฟู้ดเจ้าดังอย่าง แมคโดนัลด์ ที่ผู้บริโภครวมถึงเหล่าพ่อแม่ผู้ปกครองนั้นมองว่าเป็นอาหารขยะ และเป็นอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ดังนั้นแมคโดนัลด์จึงพยายามที่จะเปลี่ยนภาพจำ และดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่รักและห่วงใยในสุขภาพของตนเองโดยการ ผลิตกล่องกระดาษ และออกแบบกล่องบรรจุอาหารเสียใหม่ โดยใส่ข้อมูลรายละเอียดของโภชนาการว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขนาดไหน เช่น การเลือกใช้ผักกาดหอมที่มีวิตามิน และเนื้อวัวแท้ 100% และส่งต่อมูลค่าด้วยกันลงรายละเอียดโภชนาการที่เหล่าคนรักสุขภาพให้ความสำคัญอย่าเช่น จำนวนแคลอรี่ ปริมาณโซเดียม สารอาหารที่มีคุณค่า นอกจากนี้การดีไซน์รูปภาพและกราฟฟิค ยังเลือกใช้รูปและสีที่สวยงาม แสดงถึงวัตถุดิบสดใหม่ซึ่งเน้นถึงประโยชน์ทางโภชนาการของอาหาร จนทำให้เหล่าคนรักสุขภาพหันมาลองทานแมคโดนัลด์กันมากขึ้น และฐานลูกค้าเก่าก็ยังเป็นลูกค้าประจำอยู่เหมือนเดิมนั่นเอง

เพื่อแสดงทัศนวิสัยที่รับผิดชอบต่อสังคม

ต้องบอกว่าคนทั่วโลกกำลังตื่นตัวเรื่องสิ่งแวดล้อม จนแบรนด์ดังหลายๆ แบรนด์ต้องปรับบรรจุภัณฑ์ด้วยการ ผลิตกล่องกระดาษ แทนที่จะใช้พลาสติก รวมไปถึงเลือกใช้ส่วนผสมที่แสดงความเป็นธรรมชาติ และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ดังนั้นการแสดงถึงวิสัยทัศน์ที่ดีและความมุ่งมั่นในการรับผิดชอบต่อสังคมก็สามารถผลักดันให้แบรนด์ของคุณกลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น  ที่สำคัญข้อมูลทางการตลาดพบว่า ตลาดบรรจุภัณฑ์ที่รักสิ่งแวดล้อม หรือ Go Green นั้นมีอัตราการเติบโตต่อปีมากกว่าร้อยละ 6 ระหว่างปี 2015 ถึงปี 2021 หลายแบรนด์ต้องใช้บรรจุภัณฑ์รักโลกแบบทดแทนเนื่องจากได้รับแรงกระตุ้นจากผู้บริโภคและแรงกระเพื่อมของสังคม

เปลี่ยนตามบริบทสังคมและเทคโนโลยี

ต้องบอกก่อนว่าความชอบ ความต้องการ และเทคโนโลยีนั้นมักจะเชื่อมโยงกัน ยิ่งโลกก้าวไปอย่างรวดเร็ว บริษัทที่ไม่ปรับตัวก็จะล้มหายตายจากไป เพราะส่วนใหญ่มักถูกบังคับให้ออกจากตลาดเนื่องจากความล้าสมัยและการก้าวตามเทคโนโลยีที่ล้มเหลว ยกตัวอย่างเช่น Blockbuster หรืออย่างบ้านเราก็คือ ร้านเช่าวีดีโอ ซึ่งเคยเป็น ศูนย์รวมแห่งความบันเทิงของหลายครอบครัว แต่ในปัจจุบันบริษัทเหล่านี้ก็ล้มละลาย เพราะการมาของ Youtube รวมไปถึงระบบสตรีมมิ่งเจ้าใหญ่อย่าง Netflix ก็ทำให้องค์กรที่ไม่ปรับตัวต้องออกไปจากเกมการแข่งขันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นการตัดสินใจเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ก็เช่นกัน เพราะหากวันหนึ่งสินค้าของคุณต้องพึ่งพาความทันสมัยจากเทคโนโลยีที่ใครๆ ก็เข้าถึง ทางแบรนด์เองก็ควรจะปรับตัวโดยใช้การสื่อสารจากสิ่งใกล้ตัวอย่างบรรจุภัณฑ์ ให้กลายเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงและสร้างความน่าเชื่อถือเพื่อคงฐานลูกค้าเดิมเอาไว้

เมื่อกาลเวลาและตัวแปรทางด้านต่างๆ เปลี่ยนแปลง การแข่งขันจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ทำธุรกิจและต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงผ่านการใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง Infinity Printing ก็ขออาสามาช่วยให้งานที่ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่กลายเป็นเรื่องง่าย ด้วยการดูแลและควบคุมการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงของทีมงานที่เต็มไปด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปีในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้เรายังรับประกันความพึงพอใจในทุกชิ้นงาน ด้วยการรับเคลมหากผลงานไม่ได้ตามมาตราฐานที่กำหนดเอาไว้ ส่วนในเรื่องรายละเอียดการสร้างสรรค์ดีไซน์เฉพาะของแต่ละแบรนด์นั้นก็ถูกปิดผนึกเก็บไว้เป็นข้อมูลลับที่สุดเพื่อความมั่นใจของลูกค้าทุกราย

Reference:

https://www.fastprint.co.uk/blog/the-ultimate-guide-to-rebranding-redesigning-your-packaging.html

https://www.rfgen.com/blog/4-reasons-brands-change-packaging/

เช็คราคาฟรี

ไม่มีค่าใช้จ่าย

ให้คำปรึกษาฟรี

"ที่สำคัญแอดมินใจดี ไม่เหวี่ยงแน่นอนคะ"

• สอบถามราคาซองฟอยล์ : bit.ly/infinitypacking
• INSTAGRAM : infinityprinting_official
• Fanpage : bit.ly/page-infinity
• INBOX : bit.ly/msg-infinity
• เช็คราคางานพิมพ์ : 097-465-9889 K.กวาง    
• ผู้จัดการโรงพิมพ์ : 095-165-9889 K.สุทธิดา
• ฝ่ายบัญชี บริษัท : 02-9982553

FAQ คำถามที่พบบ่อย

สินค้าประเภทอาหารเป็นสินค้าที่มีการแข่งขันสูงพอควร การทำการตลาดสำหรับสินค้าในกลุ่มอาหารนั้นการ พิมพ์กล่อง ก็สามารถช่วยสร้างความน่ารับประทานได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ดังนั้นผู้ประกอบการควรทบทวนดูว่าการออกแบบดีไซน์กล่องบรรจุภัณฑ์ของสินค้าประเภทอาหารนั้นถูกหลักและถูกใจผู้บริโภคแล้วหรือยัง การมีบรรจุภัณฑ์หรือแพ็กเกจจิ้งที่ดูน่าสนใจจะสามารถสะกดใจให้ลูกค้ายอมควักเงินซื้อทั้งที่ยังไม่ได้มีโอกาสลองชิมก่อนเลยก็เป็นได้

นักออกแบบญี่ปุ่นคำถึงความต้องการของผู้บริโภคก่อนจะเริ่ม พิมพ์กล่อง

ถ้าใครเคยซื้อขนมสัญชาติญี่ปุ่น หรือหากเคยไปประเทศญี่ปุ่นนั้น อาจจะเคยสังเกตเห็นกล่องใส่ขนมที่หน้าตาน่ารัก เห็นแล้วอยากรีบจ่ายเงินซื้อมาครอบครอง ยิ่งสำหรับคุณผู้หญิงหรือเด็กๆ นั้น หากเจอไอเท็มที่มีแพ็กเกจสวยๆ ก็มักจะเผลอใจเสมอเลย ทั้งๆ ที่บางทีเปิดออกมาขนมหรืออาหารประเภทนั้นไม่ใช่ขนมที่ตัวเองชอบกิน

สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมของกล่องบรรจุภัณฑ์ในประเทศญี่ปุ่นที่ส่งผลต่อการตัดสินใจในการซื้อสินค้าของลูกค้า ดังนั้นหากคุณกำลังคิดที่จะ ผลิตกล่องแต่ตัวดีไซน์นั้นยังใช้ดีไซน์แบบธรรมดา ไม่มีการพัฒนาไปตามความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค ผลที่ได้รับอาจจะไม่ใช่ยอดขายอย่างที่คุณหวังเอาไว้ก็ได้ ประสบการณ์ในการซื้อสินค้าและความประทับใจของลูกค้าเหล่านี้จะเกี่ยวเนื่องกับ User Experience Design หรือที่เราเรียกกันว่า UX จนติดปากนั่นเอง

• คิดถึงใจลูกค้า หากใครเคยซื้ออาหารแบบห่อกลับบ้านในประเทศญี่ปุ่น หรือแม้แต่ร้านอาหารญี่ปุ่นบางร้านในประเทศไทย จะเห็นว่าเราจะได้รับทั้งกล่อง ตะเกียบ ซองสารพัดซอง มาพร้อมกับการห่อหุ้มอย่างแน่นหนาแบบไม่ต้องกังวลเลยว่าอาหารจะเลอะหรือหกออกมาจากกล่อง สิ่งเหล่านี้ทำให้ลูกค้าต่างชาติอย่างเราต้องทึ่งเพราะเห็นถึงความใส่ใจ และการเตรียมพร้อม เหมือนกับผู้ผลิตหรือร้านอาหารเหล่านี้จะทราบว่าลูกค้ากำลังจะต้องเผชิญกับอะไรหลังจากซื้อสินค้าที่ร้านไป หลายครั้งที่ทำให้เรากลับไปซื้อสินค้าจากร้านนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะประทับใจในความละเอียดอ่อนที่แบรนด์มีต่อลูกค้า ดังนั้นจะเห็นได้ว่าความใส่ใจ การคิดถึงใจเขาใจเราจึงกลายมาเป็นจุดเด่นทางด้านบรรจุภัณฑ์และการบริการของสินค้าจากประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง

• เรียนรู้ Pain Points ของผู้บริโภค หลายครั้งหลายหน กล่องบรรจุภัณฑ์ก็ทำเอาผู้บริโภคต้องเบื่อหน่ายพาลจะเลิกซื้อไปเลยก็มี ไม่ว่าจะเป็นกล่องที่เปิดยากจนต้องหาอะไรมาเจาะหรือช่วยเปิด รอยปะตรงกล่องหรือซองที่แกะอย่างไรก็ไม่ออก ปัญหาเหล่านี้คือ pain points ที่เหล่าสินค้าแบรนด์ต่างๆ อาจจะลืมคิดถึงในขณะที่ออกแบบ หรืออาจจะเป็นผลกระทบจากกระบวนการผลิตที่ไม่ได้มาตราฐานก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามสินค้าหลากหลายแบรนด์ในญี่ปุ่นเริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องของดีไซน์ โดยผูกเงื่อนไขของ Customer pain point เอาไว้ เช่น บะหมี่ Ippeichan Yakisoba เป็นบะหมี่กึ่งสำหรับรูปพร้อมรูระบายน้ำ การดีไซน์แบบนี้ก็เป็นเพราะว่าปัญหาใหญ่สำหรับชาวญี่ปุ่นที่ชอบทานยากิโซบะแบบสำเร็จรูปที่เป็นชนิดแห้งนั้นมักจะเผชิญปัญหากับการลวกและเทน้ำทิ้งไม่สะดวก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้แพ็กเกจจิ้งใหม่ของ Ippeichan Yakisoba จึงออกแบบมาพร้อมกับการเจาะรู ดังนั้นหลังจากแช่น้ำร้อนไว้ซักพักก็สามารถเทน้ำทิ้งได้ทันที ทั้งง่าย สะดวก และได้ใจผู้บริโภคอย่างที่สุดเลยทีเดียว

• เก็บคุณภาพให้ได้นานที่สุด ถือว่าญี่ปุ่นเป็นผู้นำทางด้านการจัดเก็บวัตถุดิบ และสินค้าประเภทอาหารเลยทีเดียว โดยเฉพาะอาหารบางประเภทที่ต้องเปิดๆ ปิดๆ อยู่ทุกวัน และถ้าปิดไม่ดีก็ทำให้อาหารเสียรสชาติไปเลยก็มี ดังนั้นทีมดีไซน์จึงประยุกต์ไอเดียการใช้ซิปล็อคกับถุงซีเรียล ซึ่งปกตินั้นถ้าเป็นบ้านเราก็ต้องหาหนังยางมารัดถุงเอาเอง หรือไม่ก็ต้องหากล่องภาชนะมาบรรจุแยกไว้ต่างหาก แล้วก็ทิ้งถุงไป แต่ด้วยแนวคิดที่ครอบคลุมถึงเรื่องประโยชน์ของการใช้สอยในชีวิตประจำวัน การหยิบซีเรียลมาทานอย่างเร่งรีบในตอนเช้าของชาวญี่ปุ่น ก็กลายเป็นเรื่องง่ายและสะดวกอย่างมากมายเลยทีเดียว ในปัจจุบันเมืองไทยของเราก็เริ่มมีการนำถุงซิปล็อคมาใช้กับซีเรียลและอาหารอีกหลากหลายประเภทด้วยเช่นกัน

• น้อยแต่มาก หรือจะเรียกว่าความเรียบง่ายเป็นสิ่งที่ดึงดูดที่สุดจากแนวคิดของญี่ปุ่น จากข้อมูลของงานวิจัยพบว่าการออกแบบบรรจุภัณฑ์ของดินแดนอาทิตย์อุทัยนั้นจะเน้นในเรื่อของความเรียบง่าย ซึ่งส่งผ่านทางวัฒนธรรมและอยู่ในวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นอยู่แล้วนั่นเอง ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ยึดมั่นใน Wabi-Sabi ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความงามในสิ่งที่ไม่สมบูรณ์แบบ ถือเป็นการอธิบายถึงการรับรู้สิ่งรอบตัวอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องมีสิ่งอื่นใดมาปรุงแต่งมากมาย ดังนั้นความเป็น Wabi-Sabi ของชาวญี่ปุ่นนี้จึงสะท้อนให้เห็นในรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ เช่น การ พิมพ์กล่อง บรรจุภัณฑ์ของน้ำผลไม้ที่มีการออกแบบโดยใช้สีพื้นเป็นสีเดียวกับผลไม้ และใช้ลายของผลไม้ชนิดนั้นๆ เป็นดีไซน์เลย ถึงแม้จะดูง่าย แต่ก็สื่อสารถึงผู้ซื้อได้อย่างตรงจุดว่ากำลังขายสินค้าอะไร นอกจากนี้ยังใส่ความสวยงามไปในความเรียบง่ายเหล่านั้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

แท้จริงแล้วยังมีอีกหลากหลายปัจจัยที่ทำให้การออกแบบดีไซน์แพ็กเกจสไตล์ญี่ปุ่นได้ใจทั้งผู้ซื้อหรือผู้รับ แต่การกลั่นกรองและการเลือกใช้สิ่งที่เหมาะสม สิ่งสำคัญก็คือ แบรนด์หรือผู้ผลิตควรจะเข้าใจถึงความต้องการอันแท้จริงของลูกค้า รับฟังเสียงสะท้อนในทุกแง่มุม ในขณะเดียวกันก็ยังต้องนำเสนอตัวตนของแบรนด์หรือ Brand Identity ให้สอดคล้องกับความคาดหวังของกลุ่มเป้าหมาย ท้ายที่สุดการเลือกใช้โรงงานรับ พิมพ์บรรจุภัณฑ์ คุณภาพสูงก็สามารถตอบโจทย์การผลิตบรรจุภัณฑ์ได้ดีที่สุด ซึ่ง Infinity Printing ก็พร้อมให้บริการด้วยการผลิตตามแบบของลูกค้า และส่งมอบงานด้วยคุณภาพที่ดีที่สุด มั่นใจได้เลยเพราะเรารับประกันทุกชิ้นงานด้วยการเคลมหากพบข้อผิดพลาดในตัวงาน พร้อมกันนี้เรามีทีมงานที่มีประสบการณ์สูงและมีเทคโนโลยีที่สามารถผลิตทุกชิ้นงานจะออกมาให้ดีที่สุดตามที่ท่านต้องการ

Reference:

https://www.interiorgrafico.com/edicion/decimo-septima-edicion-diciembre-2017/japanese-style-features-packaging-design

https://medium.com/the-designest/japanese-packaging-design-55d8e803d5d4

https://medium.com/@KAIQ/considerate-ux-design-in-everyday-japanese-food-packaging-photo-story-5d9c52d3640e

เช็คราคาฟรี

ไม่มีค่าใช้จ่าย

ให้คำปรึกษาฟรี

"ที่สำคัญแอดมินใจดี ไม่เหวี่ยงแน่นอนคะ"

• สอบถามราคาซองฟอยล์ : bit.ly/infinitypacking
• INSTAGRAM : infinityprinting_official
• Fanpage : bit.ly/page-infinity
• INBOX : bit.ly/msg-infinity
• เช็คราคางานพิมพ์ : 097-465-9889 K.กวาง    
• ผู้จัดการโรงพิมพ์ : 095-165-9889 K.สุทธิดา
• ฝ่ายบัญชี บริษัท : 02-9982553

FAQ คำถามที่พบบ่อย

การซื้อสินค้าสำหรับลูกน้อยนั้น ถือเป็นเรื่องที่ไม่เล็กเลย เพราะพ่อแม่ส่วนใหญ่นั้นก่อนจะเลือกซื้อสินค้ามักจะพิจารณาตั้งแต่ กล่องบรรจุภัณฑ์  ไปจนถึงรายละเอียดความเหมาะสม และความปลอดภัย ถึงจะเป็นสินค้าที่ดูไม่น่าจะต้องคิดนาน แต่กับการเลือกซื้อให้ลูกรักนั้นกลับกลายเป็นเรื่องใหญ่จนผู้ประกอบการอาจจะลืมนึกไปได้เหมือนกัน

ตลาดสินค้าแม่และเด็ก

จากข้อมูลของศูนย์วิจัยสถาบันอาร์แอลจีระบุว่า คุณแม่ยุคใหม่ส่วนใหญ่อายุ 21-35 ปี ซึ่งถือเป็นผู้เลือกและผู้ตัดสินใจหลักในการเลือกซื้อสินค้าในกลุ่มแม่และเด็ก ซึ่งพบว่าในไทยนั้นมีจำนวนสูงถึง 8 ล้านคนเลยทีเดียว โดยข้อมูลจากฐานวิจัยกสิกรพบว่ามูลค่าตลาดในกลุ่มสินค้าแม่และเด็กในปี 2562 นั้นมีมูลค่าถึง 40,300 ล้านบาท ที่สำคัญข้อมูลจาก Priceza Insights ยังบอกไว้อย่างน่าสนใจอีกด้วยว่า สินค้าในกลุ่มนี้นั้นมีอัตราการเจริญเติบโตจากการซื้อออนไลน์ในช่วงโควิด-19 ที่สูงมากจนติดอันดับ Top 5 ที่สร้าง Conversion Rate (CVR) โดยคิดเป็น 96% เลยทีเดียว ดังนั้นบอกได้เลยว่าถึงจะเป็นตลาดที่ดูไม่น่าหวือหวาหรือสร้างความตื่นเต้นได้มากเท่าไหร่ แต่ก็มีกำลังซื้อสูงอยู่ในอันดับต้นๆ แบบที่เราคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

การปรับตัวของแบรนด์ให้เหมาะกับสินค้ากลุ่มแม่และเด็กในยุค New Normal

เมื่อการขายแบบเดิมๆ เริ่มไม่ตอบโจทย์สำหรับการช้อปปิ้งในยุคปัจจุบัน แบรนด์สินค้าจึงจำเป็นต้องหากลยุทธ์และวิธีการใหม่ๆ ที่เหมาะสมกับรูปแบบของตัวสินค้ากลุ่มแม่และเด็ก ซึ่งมีไฮไลท์สำคัญดังต่อไปนี้

• การช้อปปิ้งออนไลน์ ต้องบอกว่าเหล่าคุณแม่นั้นไม่ว่าจะเป็นสายช้อปหรือสายประหยัด ต่างก็เลือกใช้ช่องทางการช้อปปิ้งออนไลน์กันมากขึ้น ด้วยเหตุที่ว่าสามารถเปรียบเทียบราคาในท้องตลาดได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาในการเลี้ยงลูก แถมคุณแม่หลายๆ คนยังนิยมใช้โซเชียลมีเดียขนาดหนัก ซึ่งในที่นี้ก็รวมไปถึงการช้อปปิ้งอีกด้วย นอกจากนี้หากแพลตฟอร์มไหนมีโปรโมชั่นดีๆ มานำเสนอก็มักจะทำให้เหล่าแม่ๆ ยอมควักเงินซื้อสินค้าให้ลูกน้อยได้มากยิ่งขึ้น โดยปัจจัยหลักในการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์คือ โปรการส่งฟรี ซึ่งมีผลถึง 57% โปร 1 แถม 1 อยู่ที่ 30% นอกจากนี้แพลตฟอร์มอย่าง Shopee ยังครองใจคุณแม่สายช้อปเป็นอันดับ 1 เพราะมียอดซื้อในแอพสูงถึง 79% เลยทีเดียว ส่วนอันดับสองนั้นตกเป็นของโซเชียลแพลตฟอร์มอย่าง Facebook นั่นเอง

• การรีวิวที่น่าเชื่อถือ ต้องบอกเลยว่าคนเป็นพ่อแม่นั้นมักจะต้องไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนในการซื้อของให้ลูกน้อย หลายคนระวังตัวยิ่งกว่าซื้อของให้ตัวเองเสียอีก ดังนั้นถ้ามีแรงสนับสนุนที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะคนที่เป็นพ่อเป็นแม่เช่นเดียวกัน ผ่านทางรีวิวผู้ใช้จริงก็จะส่งผลต่อการตัดสินใจในการซื้อสินค้าให้ลูกค้าของตนมากยิ่งขึ้น

• เน้นคุณค่าและความปลอดภัย ในเรื่องของ Product Functionality หรือสินค้าที่สามารถรองรับกับความต้องการได้อย่างตรงจุดในแง่ของฟังก์ชั่นและประโยชน์นั้นถือเป็นจุดสำคัญอย่างยิ่ง เพราะพ่อแม่ส่วนใหญ่จะมองถึงเรื่องนี้เป็นหลัก นอกจากนั้นความปลอดภัยในการใช้สินค้า รวมไปถึงการเลือกรูปแบบแพ็กเกจจิ้งและ กล่องบรรจุภัณฑ์ ที่ดูเป็นมิตรต่อเด็กและสิ่งแวดล้อมก็สามารถสร้างความรู้สึกที่ปลอดภัยให้กับผู้บริโภคได้เช่นเดียวกัน

• เทคนิคการตลาดแบบ Mompreneur ชื่ออาจจะฟังดูแปลกตา แต่ความจริงแล้วก็คือ การใช้พลังผ่านทางโซเชียลโดยสื่อผ่านทางคุณแม่ที่มีอิทธิพลในกลุ่มโซเชียลนั่นเอง คล้ายๆ Influencer ดังนั้นมักจะเห็นคุณแม่ยุคใหม่หลายท่านหันมาแชร์และให้ความรู้จนกลายเป็น Instagrammer หรือ YouTuber ที่คอยให้ความเห็นเกี่ยวกับสินค้า นอกจากนี้อย่าลืมว่ากลุ่ม Facebook Group แม่และเด็กนั้นมีอิทธิพลคล้ายๆ กัน เพราะสามารถสร้างความรู้สึกและให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์แบบคุณแม่ถึงคุณแม่ได้อย่างจริงใจ จนทำให้มีผู้ติดตามและซื้อสินค้าตามอย่างมากมายเลยทีเดียว

• เข้าถึงผู้ตัดสินใจซื้อให้ถูกคน ต้องบอกว่าถึงจะเป็นสินค้าในกลุ่มแม่และเด็กซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกัน แต่หลายครั้งคนตัดสินใจซื้ออาจจะเป็นคนละคนกันก็เป็นได้ เช่น การเลือกซื้อสินค้าที่ใช้ประจำวันอย่าง ผ้าอ้อม นมผง ส่วนใหญ่เหล่าคุณแม่จะเป็นคนเลือกซื้อสินค้าเหล่านี้ แต่หากมองถึงสินค้าที่เป็นของเล่น หรือเสริมสร้างพัฒนาการแนวสนุกสนาน หรือเกม คุณพ่ออาจจะมีส่วนร่วมมากกว่า หรือสินค้าอย่างตุ๊กตา ที่คุณตาคุณยายชอบซื้อมาฝากหลาน ทั้งๆ ที่แม่ก็บ่นว่ากองเต็มบ้านไปหมด ดังนั้นจากมุมมองที่หลากหลายเหล่านี้ ก่อนที่แบรนด์จะลุยลงมือทำการตลาด แบรนด์ควรศึกษาอย่างจริงจังเสียก่อนว่าสินค้าของเราจะไปอยู่ในการตัดสินใจของบุคคลใดในครอบครัว

• ห้ามลืมคุณพ่อเป็นอันขาด จากข้อมูลวิจัยตลาดพบว่าในปัจจุบันคุณพ่อที่อยู่ใน Gen Y นั้นใช้เวลาคลุกคลีอยู่กับลูกมากกว่าคุณพ่อในยุคก่อนถึง 3 เท่าเลยทีเดียว ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ การตัดสินใจซื้อสินค้าแม่และเด็กบางอย่าง ผู้เป็นพ่ออาจจะเป็นคนสำคัญในการเลือกซื้อ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือ ระบบความคิดที่ซับซ้อน และอาจจะมีการนำเอาเทคโนโลยีต่างๆ ในการบริโภคสื่อ และเรื่องของการจับจ่ายใช้สอยเข้ามาประกอบมากยิ่งขึ้นในการตัดสินใจซื้อ

อยากได้ กล่องบรรจุภัณฑ์ หรือแพ็กเกจจิ้งที่โดนใจและเปี่ยมด้วยคุณภาพ เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายให้ Infinity Printing ช่วยดูแลการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำจนสุดปลายน้ำ จนได้แพ็กเกจจิ้งในแบบที่คุณต้องการ มั่นใจได้ว่าผลงานออกมาเหมือนกับดีไซน์ต้นฉบับ เพราะเรากล้ารับประกันในการเคลมสินค้า หากสินค้าไม่ตรงสเป็คตามโจทย์ที่ได้รับจากลูกค้า ยืนยันด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปีในอุตสาหกรรมแพ็กเกจจิ้ง

Reference:

https://www.entrepreneur.com/article/309647

https://bizibl.com/marketing/article/consumer–trends–childrens–products–and–how–advertise–parents

http://blog.itopplus.com/biz/id_740_Mom–keting

https://www.brandage.com/article/17449/-10-เทรนด์การเลี้ยงลูก-ที่นักการตลาดต้องรู้

https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/แมและเดก-สายเปย-โลกออนไลน

เช็คราคาฟรี

ไม่มีค่าใช้จ่าย

ให้คำปรึกษาฟรี

"ที่สำคัญแอดมินใจดี ไม่เหวี่ยงแน่นอนคะ"

• สอบถามราคาซองฟอยล์ : bit.ly/infinitypacking
• INSTAGRAM : infinityprinting_official
• Fanpage : bit.ly/page-infinity
• INBOX : bit.ly/msg-infinity
• เช็คราคางานพิมพ์ : 097-465-9889 K.กวาง    
• ผู้จัดการโรงพิมพ์ : 095-165-9889 K.สุทธิดา
• ฝ่ายบัญชี บริษัท : 02-9982553

FAQ คำถามที่พบบ่อย